the thai cancer
Faculty of Medicine, Songklanagarind Hospital, Prince of Songkla University
Faculty of Medicine, Songklanagarind Hospital, Prince of Songkla University

หลักสูตรฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางสาขาอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

[Download]


วิสัยทัศน์

     เป็นหน่วยทํางานด้านอายุรศาสตร์โรคมะเร็ง อย่างมีมาตรฐานสากล


พันธกิจ

     โรคมะเร็งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของของประเทศไทย ตามสถิติของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าโรคมะเร็งเป็น สาเหตุการตายอันดับ 1 การดูแลรักษาโรคมะเร็งจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญจากสหสาขาวิชาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทาง อายุรศาสตร์มะเร็งวิทยาซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยที่สำคัญ มีความหลากหลายทั้งในด้านความชุก ความรุนแรง ความสลับซับซ้อน และความรีบด่วน และยังเป็นองค์ความรู้ที่มีความก้าวหน้าทางวิชาการอย่างรวดเร็ว ซึ่งล้วนท้าทายความรู้ความสามารถของ อายุรแพทย์มะเร็งวิทยาในการให้การวินิจฉัยโรค การดูแลรักษาแบบองค์รวม และการพยากรณ์โรค นอกจากความรู้และทักษะ ด้านอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยาแล้ว อายุรแพทย์มะเร็งวิทยายังต้องมีความสามารถด้านอื่นๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ความสามารถในการ เรียนรู้เพื่อให้มีการพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง ความสามารถด้านการวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ ความเป็นมืออาชีพ การสื่อสาร และปฏิสัมพันธ์ การทำงานเป็นทีม การปฏิบัติงานแบบสหวิชาชีพ ความรู้ความเข้าใจในระบบสุขภาพของประเทศ การบริหาร จัดการ กระบวนการคุณภาพและความปลอดภัย ตลอดจนความรับผิดชอบ มีจริยธรรม ทัศนคติ และเจตคติที่ดีต่อผู้ป่วย ผู้ร่วมงาน และองค์กร มีความเอื้ออาทรและใส่ใจในความปลอดภัย โดยยึดถือผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้อง ฝึกอบรมอายุรแพทย์สาขาอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการวินิจฉัยโรคและความ ผิดปกติต่างๆ ได้ และสามารถให้การดูแลรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมด้วยตนเอง หรือให้คำปรึกษาแก่แพทย์อื่นๆ ในการดูแล รักษาผู้ป่วย นอกจากนี้ความเป็นผู้เชี่ยวชาญ สามารถสร้างงานวิจัยและองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาการแพทย์และสาธารณสุขของ ประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด

     หน่วยมะเร็งวิทยา สาขาวิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้กำหนดพันธกิจของการ ฝึกอบรมให้สอดคล้องไปกับพันธกิจของการฝึกอบรมของราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ดังนี้

     1. ฝึกอบรมแพทย์ทางด้านอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา ให้มี เจตคติ คุณธรรม จริยธรรมแห่งวิชาชีพ มีความรับผิดชอบ และจิตสำนึกของความเป็นลูกพระราชบิดาโดยถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง มีความรู้ และทักษะทางด้าน อายุรศาสตร์มะเร็งวิทยาที่สอดคล้องกับความต้องการด้านสุขภาพของชุมชนและสังคมในภาคใต้และระบบบริการสุขภาพที่มี ความหลากหลายของประเทศ

     2. ส่งเสริมให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีแนวคิดและพัฒนาทักษะในการดูแลรักษาผู้ป่วยแบบองค์รวม และสามารถทำงาน แบบมืออาชีพ สามารถเรียนรู้การบริหาร ระบบคุณภาพ และธรรมาภิบาลเพื่อการทำงานเป็นทีมอย่างมีคุณภาพและมีความสุข และสามารถเป็นผู้นำทีมสุขภาพทางด้านอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยาในการรักษา

     3. มีความรู้ในกระบวนการวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยสามารถสร้างงานวิจัยและองค์ความรู้ เพื่อพัฒนา การแพทย์และสาธารณสุขของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด

     4. มีความสามารถในการพัฒนาตนเองและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และพัฒนาศักยภาพของตนเองเพื่อเข้าสู่การ ฝึกอบรมต่อยอดทั้งภายในและต่างประเทศ


การคัดเลือกแพทย์ประจำบ้าน/ แพทย์ประจำบ้านต่อยอดอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา

     คุณสมบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรม

     1. ได้รับปริญญาแพทยศาสตร์บัณฑิต หรือเทียบเท่าที่แพทยสภารับรองได้รับการขึ้นทะเบียนประกอบวิชาชีพเวชกรรม จากแพทยสภาแล้ว ผ่านการปฏิบัติงานเพิ่มพูนทักษะ สามารถสมัครเข้า ฝึกอบรมชั้นปีที่ 1 ได้

     2 เป็นผู้ที่ได้รับวุฒิบัตร หรือหนังสืออนุมัติสาขาอายุรศาสตร์ของแพทยสภา หรือเป็นแพทย์ประจําบ้านปีสุดท้าย ใน การฝึกอบรมเพื่อวุฒิบัตรฯ สาขาอายุรศาสตร์หรือเป็นผู้มีสิทธิ์สอบเพื่อวุฒิบัตรสาขาอายุรศาสตร์ในปีนั้น สามารถสมัครเข้า ฝึกอบรมในชั้นปีที่ 3 ได้

     3 เป็นผู้ที่ได้รับวุฒิบัตรและหนังสืออนุมัติสาขาโลหิตวิทยาของแพทยสภาหรือเป็นแพทย์ประจําบ้านปีสุดท้ายใน การ ฝึกอบรมเพื่อวุฒิบัตรฯ สาขาโลหิตวิทยาหรือเป็นผู้มีสิทธิ์สอบเพื่อวุฒิบัตรสาขาโลหิตวิทยาในปีนั้นสามารถ สมัครเข้าฝึกอบรมใน ชั้นปีที่ 3 ได้

     4. มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์แพทยสภาในการเข้ารับการฝึกบรมแพทย์เฉพาะทาง


     การคัดเลือกผู้เข้ารับการฝึกอบรม

     สาขาวิชาอายุรศาสตร์และหน่วยมะเร็งวิทยา ได้กำหนดกระบวนการคัดเลือกโดยมีการประกาศรับสมัครและเกณฑ์ การคัดเลือกผ่านทางฝ่ายการศึกษาหลังปริญญาและการศึกษาต่อเนื่อง ของคณะฯ

     สาขาวิชาอายุรศาสตร์และหน่วยมะเร็งวิทยามีการดำเนินการแต่งตั้งกรรมการคัดเลือกผู้เข้ารับการฝึกอบรม ซึ่งเป็น อาจารย์แพทย์ในหน่วยมะเร็งวิทยา และ/หรือ สาขาวิชาฯ ที่มีประสบการณ์และตัวแทนผู้เข้ารับการฝึกอบรมซึ่งไม่มีส่วนได้ส่วน เสียต่อผู้สมัคร โดยกรรมการสามารถให้คะแนนได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ได้อย่างอิสระ โดยไม่คำนึงถึง เพศ เชื้อชาติ ศาสนา รวมถึงโรคหรือความพิการที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการฝึกอบรมของผู้สมัคร ผลการคัดเลือกผู้เข้ารับการฝึกอบรม อยู่บนพื้นฐาน ความเสมอภาค โปร่งใส และเปิดโอกาสให้ผู้สมัครสามารถอุทธรณ์ผลได้ตามกระบวนการของคณะแพทยศาสตร์ มะเร็งวิทยา สมาคม และราชวิทยาลัยฯ อนึ่ง กระบวนการคัดเลือกผู้เข้ารับการฝึกอบรม สามารถมีการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม ซึ่ง หน่วยมะเร็งวิทยา และ/หรือ สาขาวิชาฯ จะประกาศให้ผู้สมัครรับทราบล่วงหน้าก่อนทุกครั้ง


     การคัดเลือกผู้เข้ารับการฝึกอบรมยึดหลักความเสมอภาค โปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยเกณฑ์การคัดเลือก พิจารณาจาก

     1. ผลการศึกษาระดับแพทยศาสตร์บัณฑิต

     2. ประสบการณ์การทางานและกิจกรรมนอกหลักสูตร รวมทั้ง recommendation

     3. ต้นสังกัด

     4. บุคลิกภาพโดยรวม และทัศนคติในการสัมภาษณ์


วิธีการคัดเลือก

     1. ผู้สมัครส่งใบสมัครเป็นทางการให้ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ ตามกำหนดการรับสมัคร พร้อมส่งหลักฐานประกอบการสมัคร ให้สาขาวิชาฯ

     2. สอบสัมภาษณ์ผู้สมัครโดยคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์ คณาจารย์ของหน่วยมะเร็งวิทยา และ/หรือ สาขาวิชาอายุรศาสตร์ ตามกำหนดเวลาและหลักเกณฑ์ของราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ

     3. ตัดสินผลการคัดเลือกตามเกณฑ์การคัดเลือกข้างต้น กรณีที่คะแนนใกล้เคียงกันขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการการ สอบสัมภาษณ์

     4. แจ้งผลการคัดเลือกให้ผู้สมัครรับทราบตามกำหนดเวลาของราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ และส่งรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้ แพทยสภาโดยผ่านราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ


ผลลัพธ์ของการฝึกอบรม/หลักสูตร

แพทย์ที่จบการฝึกอบรมต้องสามารถปฏิบัติงานได้ด้วยตนเองตามสมรรถนะหลักทั้ง 6 ด้าน ดังนี้

1. การบริบาลผู้ป่วย (patient care)
     ก. มีทักษะในการซักประวัติ ตรวจร่างกาย การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ และการรวบรวมข้อมูล สําหรับนํามาคิด วิเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผล เพื่อนําไปสู่การตัดสินใจให้การดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างเหมาะสม เป็นองค์รวม โดยมี ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง และคํานึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย
     ข. มีทักษะในการตรวจพบโรคมะเร็งระยะแรก การป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและสร้างเสริมสุขภาพ
     ค. มีทักษะในการดําเนินการเพื่อการวินิจฉัยโรคมะเร็งระยะต่าง ๆ
     ง. มีทักษะในการวางแผนในการรักษาโรคมะเร็งระยะต่าง ๆ รวมถึงการรักษาแบบประคับประคอง ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ
     จ. บันทึกรายงานผู้ป่วยได้อย่างสมบูรณ์และสม่ำเสมอ


2. ความรู้และทักษะหัตถการเวชกรรม (medical knowledge and procedural skills)
     ก. มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐานของร่างกาย และจิตใจ และสามารถประยุกต์ใช้ในการ บริบาลผู้ป่วย
     ข. มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพ และความเชี่ยวชาญในสาขาอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา
     ค. มีทักษะในการทำหัตถการที่เกี่ยวข้องกับการบริบาลผู้ป่วยโรคมะเร็ง
     ง. วิพากษ์งานวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขได้


3. ทักษะระหว่างบุคคล และการสื่อสาร (interpersonal and communication skills)
     ก. นําเสนอข้อมูลผู้ป่วย และอภิปรายปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
     ข. ถ่ายทอดความรู้และทักษะทางอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยาให้แก่แพทย์ นักศึกษาแพทย์ และบุคลากรทางการ แพทย์
     ค. สื่อสารให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและญาติได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ บนพ้ืนฐานของความเมตตา เคารพในการ ตัดสินใจและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
     ง. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ทํางานกับผู้ร่วมงานทุกระดับอย่างมีประสิทธิภาพ และมีภาวะผู้นํา
     จ. เป็นที่ปรึกษาและให้คําแนะนําแก่แพทย์และบุคลากรอื่น


4. การเรียนรู้และการพัฒนาจากฐานการปฏิบัติ (practice-based learning and improvement)
     ก. เรียนรู้และเพิ่มประสบการณ์ได้ด้วยตนเองจากการปฏิบัติ
     ข. ปฏิบัติงานแบบสหวิชาชีพและเป็นทีม
     ค. การใช้ยาและทรัพยากรอย่างสมเหตุผล
     ง. ดําเนินการวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขได้


5. การปฏิบัติงานตามหลักวิชาชีพนิยม (professionalism)
     ก. มีคุณธรรม จริยธรรม และเจตคติที่ดีต่อผู้ป่วย ญาติ ผู้ร่วมงาน เพื่อนร่วมวิชาชีพและชุมชน
     ข. เคารพในสิทธิผู้ป่วย
     ค. คํานึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม
     ง. มีความสนใจใฝ่รู้และสามารถพัฒนาไปสู่ความเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต และการพัฒนาวิชาชีพ ต่อเนื่อง
     จ. มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย


6. การทําเวชปฏิบัติให้สอดคล้องกับระบบสุขภาพ (systems-based practice)
     ก. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสุขภาพและระบบยาของประเทศ
     ข. มีความรู้และมีส่วนร่วมในระบบพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาผู้ป่วย
     ค. มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการใช้ทรัพยากรสุขภาพอย่างเหมาะสม สามารถปรับเปลี่ยนการดูแล รักษาผู้ป่วยให้ เข้ากับบริบทของการบริการสาธารณสุขได้ตามมาตรฐานวิชาชีพ

ลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฏหมาย © 2565. มะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย :: นโยบายความเป็นส่วนตัว    นโยบายคุ๊กกี้